วิธีกำจัดหูด ตาปลา ด้วยกระเทียมและเปลือกกล้วยพร้อมบอกวิธีครบ!
ตาปลา คือการที่ผิวหนังของคนเราเกิดการด้านและแข็งอาจเป็นเพราะแรงเสียดสีหรือแรงกดทับต่างๆ ส่วนที่พบบ่อยบนร่างกายของเราได้แก่ ฝ่าเท้าและนิ้วเท้าเกิดจากการที่ใส่รองเท้าแน่นเกินไป และการที่หนังบริเวณเท้าแห้งและขาดความชุ่มชื้นอีกด้วย
หูด เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกายของเรานี่แหละ เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิด HPV แทรกซึมเข้าใต้ชั้นเซลล์ผิวหนัง ก็จะเกิดการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วจึงกลายเป็นหูด ซึ่งหูดสามารถเกิดส่วนไหนของร่างก็ได้
ตาปลา Photo By en.wikipedia.org
หลายๆคนอ่านแล้วเริ่มสังเกตตัวเองรึยังคะว่าเรามีพฤติกรรม หรืออาการแบบนี้แล้วรึยัง วันนี้เรามีวิธีกำจัดทั้งตาปลาและหูดพร้อมๆกันมาฝาก ไปอ่านกันเลย!
วิธีกำจัดตาปลา
การรักษาตาปลาอาจจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูและในกรณีที่รากของตาปลาอยู่ลึกมากๆ แต่ทุกคนก็สามารถป้องกันตาปลาได้ด้วยวิธีที่ง๊ายแสนง่าย คือพยายามไม่ให้เท้าของเราแห้งหรือเสียดสีกับร้องเท้าที่เราใส่มากจนเกินไปค่ะ เป็นไงง่ายมากเลยใช่ไหมล่ะคะ
หูด Photo By en.wikipedia.org
วิธีกำจัดหูด
วิธีที่ 1 น้ำส้มสายชู + กระเทียม
วิธีการทำ
1.นำกระเทียมมาปลอกเปลือกและหั่นเป็นแว่นๆให้พอดีกับหูด
2.นำกระเทียมที่หั่นไปแช่ในน้ำส้มสายชูโดยเทน้ำส้มสายชูให้ท่วมกระเทียม
3.นำกระเทียมที่แช่น้ำส้มสาชูมาติดที่หูดและใช้พลาสเตอร์ปิดเอาไว้ ทิ้งไว้ 1 คืน พอตื่นขึ้นมาก็จะเป็นเช้าวันใหม่ที่หูดลดจางลงแน่นอน แต่วิธีนี้ต้องทำติดต่อกัน 2-4 สัปดาห์เลยนะกว่าที่หูดจะหายไปสู้ๆ
วิธีที่ 2 ใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิลไซเดอร์
วิธีการทำ
1.ทำความสะอาดผิวหนังของเราก่อน
2.นำสำลีไปชุบน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ให้ชุ่ม
3.นำสำลีที่ชุบมาแปะทับที่เป็นหูดแล้วสวมถุงเท้าทิ้งไว้ข้ามคืน
วิธีนี้เป็นวิธีที่รักษาหูดที่มีประสิทธิภาพที่สุดแล้ว ส่วนน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ก็จะมีสารที่ช่วยให้ทำลายแบคทีเรียในคนที่เป็นโรคผิวหนังอีกด้วย แนะนำถ้าใช้วิธีนี้ในการรักษาหูดควรทำติดต่อเป็นประจำรับรองไม่เห็นหูดให้กวนใจแน่นอน
วิธีที่ 3 เปลือกกล้วย
วิธีการทำ
1.ใช้เปลือกกล้วยด้านในถูกับหูด
2.แปะทิ้งไว้โดยใช้พลาสเตอร์ติดทับ ก่อนที่เราจะนอนเราก็แกะพลาสเตอร์เพื่อล้างออก ถ้าทำเป็นประจำทุกวันประมาณ 1 สัปดาห์รับรองจะไม่มีหูดให้เห็นอีก วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายอีกวิธีหนึ่งและได้รับการยอมรับจากหลายๆคนว่าใช้ได้ผลจริงๆ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก ThaiJobsGov.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น