สูตรลดน้ำหนักด้วยกล้วยหอม เคล็ดลับหุ่นเป๊ะ! ของสาวๆชาวญี่ปุ่น
วิธีการและทฤษฎีการลดน้ำหนักสายธรรมชาติมีมามายหลากหลายมาก โดยมีหลักการทั่วไปคือ การระมัดระวังเรื่องพลังงาน เลือกอาหารที่ทาน ควบคุมวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหาร ออกกำลังกาย และการปรับสมดุลของอาหารที่ทาน หนึ่งในทฤษฎีที่แปลกและเขย่าวงการลดน้ำหนักได้ทฤษฎีหนึ่งคือ การลดน้ำหนักด้วยการทานกล้วยหอม
ซึ่งถือกำเนิดมาจาก 2 สามี ภรรยา ชาวญี่ปุ่น Sumiko และ Hamachi Watanabe โดยคุณ Sumiko เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเภสัชศาสตร์และเวชศาสตร์การป้องกัน และ คุณ Hamachi ผู้เป็นสามีที่มีความรู้ด้านการแพทย์แผนจีน และเป็นที่ปรึกษาให้กับสาถาบันการดูแลร่างกายในญี่ปุ่น โดยคุณ Sumiko ได้คิดค้นทฤษฎีการลดน้ำหนักด้วยกล้วยหอมนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารให้กับสามีที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
ผลจากสูตรนี้ทำให้สามารถ ลดน้ำหนักลงได้ถึง 16.6 กิโลกรัม เธอจึงแนะนำสูตรนี้ลงบน MIXI ชุมชนออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งภายในเวลาสองปีครึ่งที่ผ่านมา พบว่า สมาชิกชุมชนประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักถึง 300 คน หลังจากนั้น ก็มีการนำมาตีพิมพ์เป็นหนังสือ และมียอดขายถล่มทลายขายเกิน 1 ล้านเล่มในญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้รับการแปลในหลายภาษาอีกด้วย
ซึ่งก่อนที่จะเริ่ม หรือตัดสินใจจะลองปฏิบัติต้องขอบอกก่อนว่า ตามทฤษฎีนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน ผลที่ออกมาก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าเมื่อทำแล้วจะเกิดผลดีหรือไม่ จึงควรใช้วิาจรณญาณในการตัดสินใจเลือก ดังเช่นทฤษฎีการลดน้ำหนักอื่นๆ จงอย่าลืมว่า หลักการการลดน้ำหนักต่างๆนั้นเหมือนการเลือกเสื้อผ้าควรเลือกให้เหมาะและเข้ากับการดำเนินชีวิตเราจะดีกว่า
หลักการคร่าวๆของทฤษฎีนี้คือ การกระตุ้นให้เรารับประทานผลไม้ ระมัดระวังระดับความหิว และความอิ่ม ทานอาหารมื้อสุดท้ายก่อนเวลา 2ทุ่ม และไม่เข้มงวดเรื่องปริมาณพลังงานในอาหารมากนัก
โดยที่มื้อเที่ยงและมื้อเย็นเราสามารถทานอะไรก็ได้ตามที่เราทานเป็นปรกติ แต่จะต้องหยุดทานเมื่อรู้สึกว่าความอิ่มของเราอยู่ที่ 80% จาก 100% และงดของหวานและน้ำหวานทุกชนิดหลังมื้อเย็น นอกจากนี้ ยังแนะนำให้เข้านอนก่อนเวลาเที่ยงคืน ลดความเครียด และนอนให้เต็มอิ่ม ช่วงสำคัญของทฤษฎีนี้อยู่ที่มื้อเช้า โดยเริ่มมื้อเช้าด้วยกล้วยหอมพร้อมดื่มน้ำในอุณหภมิห้อง เมื่อทราบถึงหลักการคร่าวๆแล้วมีวิธีการปฏิบัติดังนี้
ลดน้ำหนักด้วยกล้วยมื้อเช้า
วิธีปฏิบัติ
ตามทฤษฎีจะให้เริ่มมื้อเช้าด้วยกล้วยหอมและน้ำเปล่า สำหรับปริมาณ จะทานกี่ลูกก็ได้ตามต้องการ เคี้ยวให้ละเอียด หลังจากทานเสร็จให้ดื่มน้ำในอุณหภูมิห้องตาม โดยไม่จำกัดปริมาณ หากยังหิวอยู่ ให้เว้นระยะเวลา 15-30 นาที จึงรับประทานอย่างอื่น หากวันไหนเบื่อกล้วย หรือไม่ชอบกล้วยหอมจริงๆ สามารถปลี่ยนเป็นผลไม้ชนิดอื่นแทนได้ เช่น แอ๊ปเปิ้ล แคนตาลูป หรือแตงโม เป็นต้น แต่ขอให้เป็นผลไม้ชนิดเดียวเท่านั้น เพื่อแบ่งเบาภาระของกระเพาะของเราไม่ให้เหนื่อยเกินไปที่จะผลิตน้ำย่อยกรดด่างต่างกัน
มื้อกลางวัน จะกินอะไรก็ได้ ตามที่เราต้องการ อย่าให้มัน หวานและเค็มจัด แต่ต้องเคี้ยวให้ละเอียด กินให้พอเหมาะและไม่อึดอัดท้องจนเกินไป หยุดทานเมื่อรู้สึกว่าความอิ่มของเราอยู่ที่ 80% จาก 100%
สำหรับมื้อของว่าง หากต้องการทานสามารถเลือกทานของว่างหวานๆ อย่างช็อกโกแลตได้ หรือผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น ในปริมาณที่พอเหมาะ และถือว่าอนุโลมให้ทานของที่มีความหวานได้ในช่วงเวลานี้เท่านั้น
สำหรับมื้อเย็นจะต้องเลื่อนเวลาขึ้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเวลาเหมาะสมจะอยู่ที่ 6 โมงเย็นแต่ไม่เกิน 2 ทุ่ม รวมทั้งไม่รับประทานของหวานหลังอาหารเย็นด้วย โดยไม่จำกัดปริมาณ และชนิดอาหาร แต่ควรควบคุมระดับความอิ่มอยู่ที่ 80% จาก 100% ซึ่งการกินข้าวเย็นเร็วขึ้น ถึงแม้จะกินเยอะซักหน่อยก็ไม่จะเป็นปัญหาแต่อย่างใดเนื่องจากมีช่วงเวลาในการย่อยก่อนเข้านอนนั่นเอง
เข้านอนให้ไวขึ้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องพยายามเข้านอนก่อนเที่ยงคืนให้ได้ และควรทำให้เป็นนิสัย เพื่อฟื้นฟูร่างกายขณะหลับ กำจัดความเหนื่อยล้า ช่วยควบคุมความหิว ซึ่งจะทำให้ร่างกายสามารถลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น
ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายระดับปานกลางไม่หักโหมจนเกินไป ทำให้พอเหมาะ ตามทฤษฎีนี้คุณไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายอย่างบ้าคลั่ง โดยให้เลือกกิจกรรมที่โปรดปรานและสามารถทำได้ต่อเนื่อง เพื่อให้ร่างกายสดชื่น
เนื่องจากการออกกำลังกายอย่างหักโหมจนรู้สึกทรมาน จะไม่เป็นผลดีกับทฤษฎีการลดน้ำหนักนี้ จดบันทึกที่เกี่ยวกับแผนการการละน้ำหนัก หรือ ไดเอตไดอารี่ให้เป็นนิสัย เพื่อที่จะสามารถย้อนกลับมาตรวจเช็ความผิดพลาดได้ และยังเป็นกำลังใจให้เราทำได้อย่างต่อเนื่อง
ประโยชน์ของกล้วยหอม
กล้วยหอม ใครๆ ย่อมรู้จักกันดี และเมื่อพูดถึงผลไม้ที่ให้พลังงานสูง ส่วนมากคงจะนึกถึงทุเรียนเป็นอันดับแรก รองลงมากก็คงจะเป็นมังคุด ละมุด ลำไย ขนุน มะม่วง องุ่น แต่รู้หรือไม่ว่ากล้วย ก็เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่ให้พลังงานสูงไม่แพ้กัน
โดยเฉพาะกล้วยหอมเป็นอีกหนึ่งผลไม้ไทยที่มีผลงานวิจัยแล้วว่า เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารต่าง ๆ มากมาย ที่ร่างกายควรได้รับและ กล้วยหอม 100 กรัม ให้พลังงานประมาน 120 กิโลแคลอรี่ ต่อหน่วยเลยทีเดียว
กล้วยหอมผลไม้ที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน ลองแวะไปตลาดใกล้บ้านท่านก็จะพบเห็นกล้วยหอมวางขายอยู่มากมาย สำหรับราคากล้วยหอมถูกแพงก็แล้วแต่ฤดูกาล ถ้าเป็นช่วงไหว้ กล้วยหอมก็จะแพงหน่อย ถ้าเป็นช่วงอื่น ๆ กล้วยหอมก็จะไม่แพงจนเกินไป
คุณประโยชน์ ในกล้วยหอมนั้นมีน้ำตาลอยู่ 3 ชนิด ได้แก่ ซุคโคส ฟรักโตส และกลูโคส รวมทั้งเส้นใยอาหาร ดังนั้นร่างกายเราจะได้รับพลังงานและสามารถนำไปใช้ได้ทันที ผลจากการวิจัย แค่กล้วยหอมเพียง 2 ลูก ก็สามารถให้พลังงานกับเราได้มากถึง 90 นาที
ด้วยเหตุนี้นักกีฬาโดยเฉพาะนักเทนนิส จึงนิยมนำไปรับประทานระหว่างการแข่งขัน เพื่อเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย และสามารถนำไปใช้ได้ทันทีนั่นเอง นอกจากนี้กล้วยหอมยังช่วย รักษาโรคต่าง ๆ เช่น อาการซึมเศร้า, โลหิตจาง, ความดันโลหิตสูง, ท้องผูก , แก้อาการเมาค้าง, ลดเครียด และอื่นอีกมามาย
และเมื่อเปรียบเทียบแอปเปิ้ลแล้ว กล้วยมีโปรตีนมากกว่าแอปเปิ้ล 4 เท่า มีคาร์โบรไฮเดรตมากกว่า 2 เท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่า 3 เท่า มีวิตามินเอ และธาตุเหล็กมากกว่า 5 เท่า และมีวิตามินรวมทั้งแร่ธาตุอื่น มากกว่าอีก 2 เท่า และกล้วยยังอุดมด้วยโปรแตสเซียม กล้วยจึงเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุด
โดยส่วนตัวผึ้งไม่เคยลองทำนะคะ เพราะร่างกายไม่สามารถทานกล้วยขณะท้องว่างได้ จะเกิดอาการแก๊สในกระเพาะอย่างรุนแรง ดังนั้นอย่าลืมนะคะว่าทฤษฎีแต่อย่างมีข้อดีข้อเสียต่างกัน และไม่ได้เหมาะกับทุกคน ควรศึกษาให้ดีและใช้อย่างพอเหมาะพอควรค่ะ
ที่มา: หนังสือ “Asa Banana Diet” โดย “ฮามาจิ” asabanana.net, zawadios.exteen.com, webmd.com / http://www.lovefitt.com/
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น