WHAT'S NEW?
Loading...

6 เมนู กระชับหน้าท้อง สลายห่วงยางรอบเอว สุขภาพไม่เสีย


Advertisements

6 เมนู กระชับหน้าท้อง สลายห่วงยางรอบเอว สุขภาพไม่เสีย

มาดูแผนการรับประทานอาหารที่จะเปลี่ยนรูปร่างคุณให้หน้าท้องแบนราบแบบง่าย ๆ กับสูตรสำหรับหุ่นแซ่บเพื่อสาวไทยโดยเฉพาะ แต่ยังอิ่มและอร้อย อร่อย ได้ทั้งวัน


1. ตื่นหกโมงเช้า โยเกิร์ตผลไม้สด เลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วยเล็ก เลือกผลไม้รวม 6 ชิ้น คละกันไป เช่น แอปเปิล สับปะรด ส้ม ฝรั่ง พุทรา เป็นต้น ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลช่วงเช้าให้พอดี หนักท้อง และไม่กระตุ้นให้อยากของหวานระหว่างวัน พลังงานประมาณ: 150 แคลอรี่

2. ของว่างช่วงสาย ๆ 10.00น. น้ำเต้าหู้ทรงเครื่อง เลือกน้ำเต้าหู้สด ๆ อุ่น ๆ ใส่น้ำตาลน้อย ถั่วแดงประมาณถ้วยชาจีนเล็ก โปรตีนจากถั่วหลากหลายชนิดช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มสารสื่อประสาทในสมอง ให้คุณพร้อมออกกำลังกายและกำลังสมองในวันทำงานเสมอ พลังงานประมาณ: 120 แคลอรี่

3. เที่ยงวัน ทันอร่อย ยำวุ้นเส้น เลือกวุ้นเส้นถั่วชนิดไม่ขัดขาวประมาณ 1 ถ้วยตวง เนื้อหมูล้วนไม่ติดมันสับกับกุ้งลวก 2 ตัว เครื่องปรุงน้ำยำ หอมหัวใหญ่ กระเทียม ต้นหอม ขึ้นฉ่าย และเครื่องปรุงรสตามต้องการ เครื่องเทศมีประโยชน์ในด้านต่อต้านสารอนุมูลอิสระและดีกับหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนดี ร่างกายสดชื่น และลดความเสี่ยงเป็นโรคไขมันอุดตัน พลังงานประมาณ: 240 แคลอรี่

4. ของว่างช่วงบ่าย ๆ 16.00น. กาแฟดำร้อน กินคู่แคร็กเกอร์ไฟเบอร์ 2 ชิ้นเล็ก ซินนามอนหรืออบเชยมีคุณสมบัติควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ร่างกายจึงเผาผลาญพลังงานเป็นอย่างดี พลังงานประมาณ: 120 แคลอรี่

5. ดินเนอร์แบบนางงาม 19.00น. ผัดหน่อไม้ฝรั่งใส่หมู ข้าวสวย 1 ถ้วย เนื้อหมูล้วน หน่อไม้ฝรั่งอ่อน ๆ ½ ถ้วยตวง น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อน เครื่องปรุงรส+กระเทียม หน่อไม้ฝรั่งมีไฟเบอร์สูงมาก หนักท้องนาน ทว่าแคลอรี่เบา ๆ และสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้วย พลังงานประมาณ: 220 แคลอรี่

6. ของเบา ๆ ก่อนนอน 20.30น. กล้วยน้ำว้า 1 ลูก หรือส้มขนาดเล็ก 1 ผล ช่วยให้ร่างกายพร้อมเข้าสู่การนอน กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเมลาโทนิน คุณจึงหลับสบายและสุขภาพดี พลังงานประมาณ: 60 แคลอรี่

สรุปว่าถ้าทานตามลิสต์ที่เราจัดให้นี้ ทั้งวันทานไปแค่ 1,000 แคลอรี่ เรียกว่าพอดี๊พอดีสำหรับสาวทำงานอย่างคุณ สุขภาพก็ดี หน้าท้องก็เรียบแบน..เลิฟเลยใช่มั้ยล่ะ



บทความจาก...... womenshealththailand.com/ นิตยสาร Women’s Health ฉบับเดือนมีนาคม 2012 / Photo By wikihow.com
Advertisements

Advertisements

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น