สูตรน้ำว่านกาบหอย ช่วยแก้ร้อนใน ต้านอนุมูลอิสระ
ว่านกาบหอย นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ใช้เป็นยาแผนโบราณ ไทย สมุนไพรสีสวยช่วยแก้ร้อนใน ต้านอนุมูลอิสระ ปัญหาสำคัญของโรคเรื้อรังนานาชนิด ลดโอกาสการแพ้ที่เกิดจากสารเคมี
ใบสดแก้อาการร้อนในกระหายน้ำแก้ฟกช้ำภายในเนื่องจากพลัดตกหกล้มดอกสดใช้แก้ไอไอมีเสมหะต้มน้ำดื่มบ่อย ๆ
ชื่ออื่น : ว่านหอยแครง, ว่านแสงอาทิตย์, ฮ่ำหลั่งเฮี๊ยะ, อั่งเต็ก (จีน-แต้จิ๋ว)
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Rheodiscolor Hance.
วงศ์ Commelinaceae เป็นพวกเดียวกับหญ้าปราย
ลักษณะต้น : เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ลำต้นแข็งแรง สูงไม่เกิน 50 ซ.ม. ไม่ค่อยแตกกิ่งก้านสาขา
ใบ : ออกใกล้ๆ กัน ติดกันเป็นกระจุก ใบหนา แข็งเรียวยาว ยาวประมาณ 15-30 ซ.ม. กว้าง 2.5-6 ซ.ม. ปลายใบแหลม หลังใบสีเขียว ท้องใบสีม่วงแดงมีดอกสีขาว ก้านสั้น หลายดอกออกเป็นช่ออยู่ในกาบหุ้มช่อดอก 2 กาบ ลักษณะคล้าย กาบหอย ยาว 3-4 ซ.ม. มีสีม่วงแดงอ่อนๆ กลีบออกสีขาว มี 3 กลีบ รูปร่างค่อนข้างกลม เกสรตัวผู้มี 6 อัน ก้านเกสรมีขนเกสรตัวเมียไม่มีก้าน รังไข่ 3 รัง แก่แล้วแตกแยกจากกันดอกออกฤดูร้อน ว่านกาบหอยมักพบปลูกเป็นไม้ประดับหรือปลูก ไว้ในสวนยาหรือใส่กระถางปลูกเอาไว้ทำยาตามบ้านเรือน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ล้มลุก สูง 20-45 ซม. ลำต้นอวบใหญ่ แตกใบรอบเป็นกอ ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงซ้อนเป็นวงรอบ รูปใบหอก ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ หลังใบสีเขียว ท้องใบสีม่วงแดง เนื้อใบหนา ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ แต่ละช่อประกอบด้วยใบประดับสีม่วงปนเขียว รูปหัวใจคล้ายหอยแครง มี 2 กาบ โคนกาบทั้งสองประกบเกยซ้อนและโอยหุ้มดอกสีขาว ดอกสีขาวเล็กอยู่รวมเป็นกระจุก กลีบดอก 3 กลีบ รูปไข่ สีขาว แผ่นกลีบหนา เกสรเพศผู้มี 6 อัน ผล รูปรี กว้าง 2.5-3 มม. ยาว 3.5 มม. มีขนเล็กน้อย ผลแก่แตกออกเป็น 3 ซีก เมล็ดเล็ก
การขยายพันธุ์ :
การปักชำในพื้นที่ปลูกในฤดูฝน ปักชำในถุงเพาะชำในโรงเรือนนอกฤดูฝน
ข้อดีของพันธุ์ไม้ :
เป็นพันธุ์ไม้ล้มลุกที่ปลูกได้นานหลายปี
ไม่ต้องดูแลรักษามาก ใบไม่ค่อยร่วง
ใช้ในการประดับสวน สนาม และโคนต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีแดดส่องถึงบ้างได้ดี
ข้อแนะนำ :
กาบหอยแครงเป็นพันธุ์ไม้ที่ปลูกได้ดีในพื้นที่ที่มีแดดส่องถึงครึ่งวัน การปลูกกาบหอยแครงในพื้นที่ที่มีแดดส่องถึงเต็มวันสามารถทำได้ แต่ความเข้มของสีใบจะลดลง
ระยะปลูกที่ใช้ในการประดับและตกแต่ง พันธุ์แคระระยะ 10X10 นิ้ว พันธุ์ปกติ 16X16 นิ้ว
วิธีเก็บมาใช้ : ใช้ใบสดหรือตากแห้งเก็บเอาไว้ใช้ ดอกเก็บเมื่อดอกโตเต็มที่
ตากแห้งหรืออบด้วยไอน้ำ 10 นาที แล้วจึงนำไปตากแห้ง เก็บเอาไว้ใช้
สรรพคุณ :
ใบ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไอ อาเจียนเป็นเลือด แก้ฟกช้ำภายใน เนื่องจากพลัดตกจากที่สูงหรือหกล้มฟาดถูกของแข็ง แก้บิดถ่ายเป็นเลือด แก้ปัสสาวะเป็นเลือด
ดอก : รสชุ่มชื่น ใช้ขับเสมหะ แก้ไอแห้งๆ แก้อาเจียนเป็นเลือด เลือดกำเดา ห้ามเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด แกไอเป็นเลือดใช้ต้มกับกับเนื้อหมูกิน แก้บิดถ่าย เป็นเลือดใช้ต้มน้ำกิน
วิธีและปริมาณที่ใช้
ใบ : ใช้ต้มกินครั้งละ 15-30 กรัม ใช้ภายนอก ก็ตำพอก
ดอก : ใช้ดอกแห้งหนัก 10-15 กรัม หรือดอกสด 30-60 กรัม ต้มน้ำกิน
ตำรับยา
•แก้ไอ : ร้อนในกระหายน้ำ แก้อาเจียนเป็นเลือด แก้ฟกช้ำภายในเนื่องจากพลัดตกจากที่สูงหรือหกล้มฟาดถูกของแข็ง ใช้ใบสด 3 ใบ ต้มน้ำ ผสมน้ำตาลกรวดเล็กน้อยกิน
•แก้หวัด :ไอมีเสมหะปนเลือด เลือดกำเดาออก บิดจากแบคทีเรีย ใช้ดอกแห้ง 20-30 กรัม ต้มน้ำกิน
•แก้บิด : ใช้ยานี้สด 120 กรัม น้ำตาล 30 กรัมต้มน้ำกินตอนอุ่นๆ โดยทั่วไปกิน 1 ชุด ก็เห็นผลแล้วเมื่อกินติดต่อกัน 3-4 ชุดจะหายขาด ไม่มีอาการข้างเคียงอะไร
•แก้โรคผิวหนัง : ผื่นคัน อันเกิดจากการทำนา ใช้คั้นน้ำจากใบของต้นนี้มา ทาบริเวณมือและเท้า ปล่อยให้แห้งแล้วค่อยลงไปทำนา โดยทาน้ำคั้นของต้นนี้ 1 ครั้ง ก่อนและหลังลงไปทำนา เป็นการป้องกันมือและเท้าเน่าเปื่อย ถ้ามือและเท้าเน่าเปื่อยแล้วก็ทาน้ำคั้นจากต้นนี้เป็นการรักษาได้เหมือนกัน
น้ำว่านกาบหอย
ส่วนผสมมีดังนี้
•ใบว่านกาบหอยสด 20 ใบ
•น้ำสะอาด 6 ถ้วย
•น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
•น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำใยว่านกาบหอยสดล้างให้สะอาดแช่ด่างทับทิม 10 -20 นาที ล้างใบว่านกาบหอยให้สะอาด หั่นตามขวางหยาบๆ ใส่ลงในหม้อที่ต้มน้ำไว้จนเดือด ต้มต่ออีกประมาณ 7 นาที เติมน้ำตาลทราย กรองกากออก สีชมพูอ่อนกรองใส่ขวดนึ่ง 20-30 นาทีเย็นแล้วเก็บใส่ตู้เย็นดื่มได้หลายวัน ทิ้งไว้ให้เย็นจึงใส่น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน จัดเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง จะได้น้ำว่านกาบหอยสีชมพูอ่อนๆ ประมาณ 5 แก้ว
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก...http://www.monmai.com/
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น