แจกสูตรปลาทูต้มเค็มที่ก้างเปื่อย (ตำรับวังสวนสุนันทา) ใครๆก็บอกสูตรนี้อร่อย
สูตรนี้เราต่อมาจาก ป้านิด อีกทีหนึ่ง..ปลาทูต้มเค็มที่ก้างเปื่อยนี้มีอยู่ในหนังสือชีวิตในวังอยู่แล้วเป็นตำรับของวังสวนสุนันทา แต่ในหนังสือไม่ได้บอกอะไรละเอียดมากนัก
สูตรนี้เราต่อมาจากป้านิด บุตรสาวของคุณยายเนื่องมาอีกที่หนึ่ง มีเคล็ดลับมากมายกว่าในหนังสือ ฟังดูง่ายนะวิธีการทำอาหารแต่เวลาทำจริงๆ แล้วไม่ง่ายเลย สูตรอาหารโบราณนั้นอร่อยมาก แต่ทำแล้วไม่อร่อยอยู่ที่ฝีมือคะ
1 ปลาทูสด ไม่มีใช้ปลารังก็ได้ จำนวนแล้วแต่สะดวก(หน้าหนาวปลาทูเนื้ออร่อยมาก)
2 มันหมูไม่มีใช้หมูสามชั้นติดมันเยอะ
3 น้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลตะโหนด
4 มะขามเปียกใหม่ๆ 2 ปั้น
5 น้ำปลาอย่างดี ทิพรส คนแบกกุ้งดีที่สุด
6 ต้นอ้อยสักท่อนหรือ2ท่อนถ้าหาไม่ได้ใช้ชั้นอ้อยที่คนขายน้ำอ้อยคั้นเขาบีบน้ำอ้อยแล้วก็ได้ ใช้แก้ตัวปลาติดหม้อ
เครื่องปรุงพิเศษ
ต้นหอมซอย
หอมแดงซอย
พริกชี้ฟ้าซอย
มะเขือเทศสีดา
ขิงอ่อนซอย
น้ำอ้อย
น้ำส้มซ่า
-ขยำมะขามเปียกด้วยน้ำปลาและน้ำตาลใส่น้ำนิดหน่อย แล้วชิมให้รสเท่ากัน หวานเค็ม เปรี้ยว แล้วกรองเอากากออก
-ล้างท่อนอ้อยแล้วผ่าเป็นซีกๆปูก้นหม้อกันปลาทูต้ดก้นหม้อ
-ปลาทูตัดหัวออกแล้วควักไส้ออกล้างให้สะอาด วางเรียงในหม้อกลับหัวหาวให้เท่ากัน ตอนเราต้มจะไม่มีการคน หรือขยับตัวปลา
-ลาดน้ำมะขามลงไปแล้วเติ่มน้ำให้ท่วมปลา หั่นมันหมูหรือหมูสามชั้นใส่ลงไป2 กำมือถ้าปลามาก 3-4กำมือ
-ปิดหม้อตั้งไฟตอน 10นาทีแรกใช้ไฟแรงต้มจนเดือด
หลัง10นาทีไปแล้วลดไปลงให้เบาที่สุดต้มไป ทั้งวัน ถ้าน้ำแห้งเติมน้ำ
-ทำแบบนี้ 3วัน ก้างปลาจะเปื่อยเป็นแป้ง เนื้อปลาจะเเข็ง
ทดสอบดูเลาะตัวปลาแล้วบี้ก้างดู ถ้าไม่ชอบเนื้อแข็ง หรือใจร้อนขี้เกียจรอ ต้ม 30นาที่ก็ทานได้แล้ว
-ที่น่าแปลกคือถ้าใช้เตาถ่านปลาจะก้างเปื่อยไวมากกว่าใช้เตาแก็ส คุณยายเนื่องบอกว่ามันหมูจะทำให้ก้างเปื่อย น้ำมะขามเปรี้ยวๆจะรัดให้เนื้อปลาแข็ง แต่ที่ขายข้างถนนเขาใส่ดินประสิวสารเคมีก้างปลาจึงเปื่อยเร็ว
- เครื่องปรุงพิเศษ คือจะทานธรรมดาก็ได้ แต่เราตอนต้มปลาจะหั่นมะเขือเทศใส่ลงไปด้วยแต่กลิ่นและสีของปลาและวันที่3ของการต้มจะใส่น้ำอ้อยลงไปเพิ่มความหอมให้ปลาทู
ตอนทานจะซอยขิงอ่อน หอมแดง ต้นหอม พริกแดงใส่ลงไป บีบน้ำส้มซ่าใส่ลงไป ขอบอกว่าหอมและอร่อยมาก
ทำทานมาหลาย 10 ครั้งแล้ว กว่าจะต้มได้ ตอนแรกเททิ้งไป 2 หน ครั้งที่ 3นะกว่าจะจับเคล็ดลับได้ว่าใส่อะไรตอนไหน อย่าลืมช้อนมันหมูทิ้งก่อนในวันที่ 2 นะ
ขอบคุณข้อมูลจากคุณ : นางในหนีเทียว http://topicstock.pantip.com
ขอบคุณภาพประกอบจากคุณบ่งบ๊งเว็บ www.bloggang.com
ที่มา : Chomphoonut Panomai/อ่านเองนะ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น